สวัสดีคะทุกท่าน,
วันนี้มีเรื่องเล่า หลังจากห่างหาย สำหรับการเขียนเล่าเรื่องราว สาระความรู้มานาน วันนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสดีได้มาแบ่งปันสาระความรู้และประสบการณ์ดีๆส่วนตัวให้เพื่อนๆได้ฟังกันบ้าง หลายคนที่ทำงานหลายๆแบบ มีพฤติกรรมการดำรงชีวิตต่างๆกัน บางครั้ง พฤติกรรมที่เราปฎิบัติในแต่ละวันอาจส่งผลต่ออาการป่วย เมื้อยล้า ให้เราไม่รู้ตัว ซึ่งบางครั้งอาการที่เป็นเล็กๆน้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นทุกวันๆ และเราอาจละเลยนี้ อาจเป็นสาเหตุสำคัญของโรคร้าย ซึ่งเกิดจากการสะสมเป็นเวลานานๆวันเข้าก็ได้
วันนี้ฉันอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวสู่เพื่อนๆฟัง เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อใครหลายคน มันเริ่มที่ว่า ส่วนตัวแล้วฉันเป็นคนทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ นานถึงนานมาก เรียกได้ว่า ตั้งใจทำจนกว่างานจะเสร็จเป็นอย่างๆไป และก็เป็นคนชอบหาอ่านความรู้ในโลกอินเตอร์เนท ด้วยการนั่งอ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นหลัก คำนวณคร่าวๆ นั่งนานประมาณวันละ 12 ชั่วโมงเห็นจะได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเป็นเยี่ยงอย่างเลยคะ
ด้วยความที่มีพฤติกรรมดังกล่าว อาการทางร่างกายที่เกิดขึ้นทีละเล็กละน้อยกับฉันคือ ปวดต้นคอ ยาวไปถึงเอว บางครั้งมีอาการชาที่ต้นคอ คล้ายๆ เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง บางครั้ง อยู่ดีๆ มือชาไปเฉยๆ บางครั้งนั่งนานไปอีก อาการไมเกรนถามหาเลยทีเดียว ฟังดูน่ากลัวไหมคะ หลังจากเริ่มสังเกตอาการตัวเอง อาการชาที่ต้นคอ เริ่มเป็นหนักขึ้น จึงบอกตัวเองว่า ต้องรักษาละ นึกไปถึงว่า จะเป็นอัมพาตไหมนี่
จริงๆ แล้ว รู้ตัวดีคะว่า ควรเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองอย่างไร ถึงจะหายจากอาการพวกนี้ นั่นก็คือ ลดเวลาการทำงานหน้าคอมฯ นานๆให้น้อยลง หรือเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ หากต้องใช้มันนานๆ หมั่นออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หลอดเลือดได้ทำงานของมันตามธรรมชาติ มันก็อาจจะดีขึ้น แต่คราวนี้ อาการที่เป็นมันสะสมมากคะ อยากให้หายเร็วๆ แบบทันใจ แล้วคิดว่าค่อยเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างที่ว่ามา ทีหลังดีกว่า จึงตัดสินใจหาข้อมูลต่างๆ จึงได้พบว่ามีวิธีหนึ่งที่ช่วยเรื่องนี้ได้อย่างดี ก็คือการรักษาแบบแผนจีน หลังจากฉันได้หาข้อมูลและปรึกษาแพทย์แผนจีน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจ เริ่มรักษา ด้วยการฝังเข็มและครอบแก้ว
การฝังเข็ม เป็นการรักษาแผนจีน ที่มีกันมาเป็นพันๆ ปีแล้ว เป็นการช่วยปรับธาตุในร่างกายและช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนได้เป็นปกติ ซึ่งวิธีนี้ทำให้คนหายกันเยอะแยะ ฉันเลยค่อนข้างแน่ใจว่าน่าจะช่วยได้ ก่อนฝังเข็มคุณหมอจะแมะ หรือจับชีพจรที่ข้อมือ เพื่อตรวจและวินิจฉัยอาการ หลังจากนั้นจึงเริ่มรักษา การฝังเข็ม คุณหมอจะนำเข็มสำหรับฝังเข็มโดยเฉพาะ ฝังในบริเวณจุดของร่างกาย ที่ส่งผลตามอาการที่คนป่วยเป็น ฝังทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้านละ 20 นาที เข็มนี่ไม่ต้องพูดถึง ฝังกันเป็นเม่นเลยคะ อย่างภาพที่เห็นด้านบนนี้ ถามว่าเจ็บไหม ก็จะรู้สึกเหมือนมดกัดนิดนึงตอนลงเข็ม หลังจากนั้นก็ไม่เจ็บคะ สบายๆ หากรู้สึกเจ็บก็บอกคุณหมดให้ผ่อนเข็มได้คะ และหาคนป่วยมีอาการมาก บางครั้งคุณหมดก็ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าร่วมด้วยในบางจุด ก็จะรู้สึกเหมือนมีคนมากระตุกเข็มที่ฝังอยู่รัวๆ แต่ไม่เจ็บนะคะ แค่คันๆ
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือการครอบแก้ว การครอบแก้วเป็นการไล่พิษออกจากร่างกาย ด้วยการไล่เลือดที่อาจจะเดินไม่สะดวกและคลั่งค้างอยู่แค่บางส่วนของร่างกายออกด้วยการนำมารวมไว้จุดใดจุดหนึ่งและให้ร่างกายกำจัดออกเองตามธรรมชาติเพราะวิธีนี้ร่างกายจะกำจัดได้ดีกว่า วิธีการคือ คุณหมอจะนำแก้วลักษณะดังภาพ ล้นไฟให้เกิดสูญญากาศและรูดที่ด้านหลังหลายๆครั้ง ทั่วทั้งตัว และสุดท้ายจะนำแก้วคาไว้ที่หลังดังภาพ ประมาณ 5 นาที และก็จะนำออก จะพบว่าหากจุดใดที่มีปัญหาปวดเมื้อยมาก ก็จะแสดงให้เห็นรอยแดงมาก ในตอนแรก ที่ฉันทำนะคะ เป็นสีม่วงแก่เลยคะ ทั้งแผ่นหลัง แต่เมื่อทำไปหลายๆครั้ง ก็ค่อยๆ เหลือเพียงรอยแดงนิดหน่อย แต่ที่แน่ๆ อาการปวดเมื้อยและอื่นๆ ได้หายไปเรื่อยๆ จนปกติ ฉันรู้สึกได้ผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเลยจริงๆคะ อาการชา เมื้อย ปวด หาย และการฝังเข็มเพื่อปรับสมดุล ยังช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น หลับสนิท อาการเหนื่อยง่าย ที่ไม่คิดว่าน่าจะมีปัญหามาก่อน มันก็หายไป ไม่เหนื่อยง่ายเหมือนก่อน ระบบขับถ่าย ท้องอืด ดีขึ้น ลืมบอกว่า คุณหมอให้ยาจีนมาทานร่วมด้วยคะ
จริงๆ หากเราแค่ออกกำลังกาย ไม่ทำอะไรอย่างเดิมซ้ำๆ นานๆ ท่าเดิมๆ พฤติกรรมเดิมๆ จนทำให้เกิดโรคเรื้อรัง เราก็จะห่างไกลจากโรคคะ ทั้งหมดที่ฉันเป็นนี่ ก็คืออาการ Office Syndrome นี่แหล่ะคะ ซึ่งคนสมัยนี้เป็นกันเยอะมากนะคะ แต่ไม่รู้ตัว บางคนรู้อีกทีก็เข้าโรงหมอซะแล้ว
คำแนะนำที่ได้จากคุณหมอ คือ ให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ต้องเยอะ แต่ควรสม่ำเสมอ ดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องเยอะๆไม่น้อยกว่า 2 ลิตรต่อวัน ทานผักต้มแทนผักดิบเพื่อป้องกันท้องอืดง่าย นอนให้เพียงพอ เรื่องเหล่านี้จะบอกว่าใครๆก็รู้ใช่ไหมคะ แต่ใครๆที่ว่า ก็ไม่ทำ จริงไหมละคะ 5555 ก็นี่แหล่ะคะ ต้องรักษาตัวเองกันนะคะ เราต้องรักตัวเองก่อน ถึงจะดูแลคนที่เรารักได้เนอะ
ปัจจุบันรักษามาประมาณ 12 ครั้งแล้ว (1 ครั้ง/อาทิตย์) อาการดีขึ้นมาก แต่จะเรียกได้ว่าหายเลยก็ไม่ใช่เพราะว่ายังไม่ลดพฤติกรรมนั่งหน้าคอมฯ นานๆ และนอนน้อย นั่นแหล่ะคะ น่าตีตัวเอง เสียเงินแล้วยังไม่สำนึก 5555 หากท่านใดสนใจปรึกษาคุณหมอ แนะนำไปคลีนิคที่ฉันไปนี่ได้นะคะ และหวังว่าเรื่องราวนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนที่เข้ามาอ่าน ไม่มากก็น้อย วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีคะ
ฝังเข็ม ยาจีน คลินิกฝังเข็มเมอริเดียน Meridian Clinic และขอบคุณภาพจากคลีนิคคะ
Thanks,
@pasnobodyyee